ขึ้นชื่อว่าตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้า ผู้มีอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ หรือเหล่าสัตว์เทพเจ้า หลายๆประเทศบนโลกคงมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อยู่ไม่มากก็น้อย เหมือนประเทศไทยเราที่มีความเชื่อเกี่ยวกับครุฑ พญานาค พระนารายณ์ พระศิวะ อะไรประมาณนั้น ของที่เกาหลีเขาก็มีความเชื่อเกี่ยวกับเทพผู้สร้างของเขาเช่นกัน ซึ่งมีรากฐานความเชื่อที่คล้ายคลึงกันกับญี่ปุ่นและจีน
เทพผู้สร้างของเกาหลีมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 สิ่งก็คือ มนุษย์ มังกร พยัคฆ์ เต่า และหงส์
โดยที่มนุษย์ผู้นั้นมีชื่อว่า “ทันกุน วังกอม(단군왕검)” ได้รับการยกย่องเป็นจอมกษัตริย์ผู้ให้กำเนิดอาณาจักร โคโชซอนซึ่งเป็นอาณาจักรแรกของเกาหลี เมื่อปี 2,333 ก่อนคริสตกาล
ตำนานเกาหลีนั้นเชื่อว่าในอดีตกาล “ฮวันอุง(환엉)” โอรสของผู้ปกครองสวรรค์ได้ขออนุญาตเทพผู้เป็นบิดาพากำลังพล 3,000 นาย อีกทั้งมีเทพแห่งลม เทพแห่งเมฆ และเทพแห่งฝนพากันลงมาปกครองโลกมนุษย์ที่เทือกเขา แทแบ็กซาน(태백산) ปัจจุบันคือเขาโมฮยังซาน(모향산)ในประเทศเกาหลีเหนือ
เมื่อเทพฮวันอุงได้ลงมายังโลกมนุษย์ไม่นานก็มีหมีกับเสือคู่หนึ่งมาอ้อนวอนเทพฮวันอุงให้ช่วยพวกมันให้เป็นมนุษย์ เทพฮวันอุงจึงให้สัตว์ทั้งสองไปรักษาศีลในถ้ำด้วยการไม่รับประทานอะไรเลยนอกจากผักโขมและกระเทียม อีกทั้งยังห้ามมิให้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันเป็นอันขาดเป็นเวลา 100 วัน
สัตว์ทั้งสองน้อมรับในคำสั่งด้วยความยินดีที่อีกไม่นานก็จะได้เป็นมนุษย์ แต่เสือนั้นกลับทนไม่ไหวในระหว่างการบำเพ็ญเพียรจึงเลิกบำเพ็ญและหนีเข้าไปป่าไปเสียก่อน เหลือเพียงเจ้าหมีที่อยู่บำเพ็ญครบตามกำหนดไม่ขาดตกบกพร่องเพียงตัวเดียว
เมื่อครบกำหนด หมีตัวนั้นก็ได้กลายเป็นหญิงสาวแสนสวย เทพฮวันอุงจึงตั้งชื่อให้นางว่า “อุนงอ(운여)” และรับนางเป็นภรรยา ทั้งสองจึงให้กำเนิดบุตรครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพนามว่าทันกุนนั่นเอง
ซึ่งต่อมาทันกุนได้รวบรวมราษฎรทีกระจัดกระจายทั่วทุกสารทิศให้มารวมกันในแคว้น โคโชซอนให้เป็นปึกแผ่น และอยู่ปกครองยาวนานเป็นเวลา 1,500 ปี จากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นเทพผู้ปกครองขุนเขาชื่อว่า “เทพเจ้าอาซาดัล(아사달)”
เทพมังกรน้ำเงิน หรือเทพวุนซา(운사) เทพผู้พิทักษ์ทิศตะวันออก เป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ หรือธาตุไม้
เทพเสือขาว หรือเทพพุงแบ็ก(풍백) เทพประจำทิศตะวันตก เป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วงหรือธาตุลม ซึ่งชาวเกาหลีเชื่อว่าเสือขาวนั้นเป็นเจ้าของสัตว์ทั้งมวล และเทพเสือขาวจะโดดเด่นกว่าเสือตัวอื่นๆตรงที่บำเพ็ญตบะมาหลายร้อยปีจนแกร่งกล้า และหางจะเปลี่ยนเป็นสีขาวต่อเมื่ออายุครบ 500 ปี อีกทั้งยังพบได้แค่ในสมัยที่มีกษัตริย์ปกครองด้วยทศพิธราชธรรมเพียงเท่านั้น
เทพเต่าดำ หรือ เทพฮยอนมู(현무) เทพประจำทิศเหนือ เป็นตัวแทนของฤดูหนาวหรือธาตุน้ำ สัญลักษณ์ของเทพฮยอนมูก็จะเป็นรูปเต่ามีงูใหญ่พันอยู่รอบตัว เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีอายุยืน ทำให้ชาวเกาหลีมักสวมหยกรูปเต่าเพื่อขอพรให้อายุยืน
เทพหงส์เพลิง หรือ เทพจูจั๊ก(주작) เทพประจำทิศใต้ เป็นตัวแทนของฤดูร้อนหรือธาตุไฟ ซึ่งธาตุเป็นธาตุเดียวที่มนุษย์ค้นพบ ทำให้เชื่อว่าเทพหงส์เพลิงจึงเป็นส่วนพนึ่งของพลังแห่งพิภพ
นอกจากนี้ชาวเกาหลียังมีความเชื่ออีกว่าหมีเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ อันเนื่องมาจากคิดว่าตนนั้นถือกำเนิดหมาจากหมีที่บำเพ็ญเพียรด้วยความกล้า มั่นคง และทรหดอดทนจนได้เป็นมนุษย์สมใจ
ส่วนสัตว์เทพอีกองค์หนึ่งที่ชาวเกาหลีนับถือมากๆก็คือ นกสามขา เป็นตัวแทนแห่งชัยชนะในการรบ การต่อสู้ อันเนื่องมาจากความเชื่อของชาวเกาหลีที่คิดว่านกสามขานั้นเป็นเทพแห่งการรบ หากมีสัญลักษณ์นกสามขาติดธงประดับตอนออกรบ จะทำให้ได้ชัยชนะกลับมา อย่างเช่นในตอนที่จูมงกำลังตั้งทัพ ก็ใช้นกสามขาเป็นสัญลักษณ์นั่นเอง
ที่มา : www.hellomiki.com